ประวัติคริสตจักร



ประวัติคริสตจักรที่ 1 แพร่กิตติคุณ 1894-2011


คริสตจักรที่ 1 แพร่กิตติคุณ


คริสตจักรที่ 1 แพร่กิตติคุณ  1894-2011 โดย คมสัน  หน่อคำ

  ชื่อ คริสตจักรที่ 1 แพร่กิตติคุณ หลายที่คงเคยได้ยินได้ฟังผ่านหูมาบ้าง ขอบอกว่าในจังหวัดแพร่มีคนนับถือศาสนาที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธอยู่ด้วยมากมาย ศาสนาคริสตเป็นกลุ่มคนอีกกลุ่มที่มีบทบาทในหน้าประวัติศาสตร์หนึ่งของจังหวัดแพร่มายาวนาน คริสตจักรที่ 1 เป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแพร่ศาสนาศริสตในเขตจังหวัดแพร่และอุตรดิตถ์ โดยมีมิชชั่นนารีคณะเพรสไบทีเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกา นำโดย ดร.แมคกิลวารี ที่ถูกเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า “พ่อครูหลวง”เป็นมิชชั่นนารีคนแรก ที่เข้ามาสำรวจและเผยแพร่ศาสนาคริสตในจังหวัดเชียงใหม่ ในรูปแบบหมอ คือ ออกเยี่ยมเยียนชาวบ้าน รักษาคนเจ็บป่วย พร้อมสอนคำสอนของพระเยซูคริสตควบคู่กับได้ใช้วิชาการแพทย์ใหม่รักษาชาวบ้าน ซึ่งได้ผลดีกว่าการรักษาแบบโบราณ ทำให้ได้รับความไว้ใจจากชาวบ้าน

  และในปี ค.ศ. 1893 (พ.ศ. 2436) เกิดวิกฤตข้าวยากหมากแพง ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ทำให้ขาดแคลนอาหารไปทั่วภาคเหนือ โดยเฉพาะเกิดภาวะฝนแล้งซ้ำเติมอีก ทำนาปลูกข้าวไมได้ผล ชาวบ้านขาดแคลนข้าวสารอาหารบริโภค ความแห้งแล้งกันดารขาดแคลนอาหารแผ่คลุมมาถึงจังหวัดแพร่ด้วย ความทราบถึง ดร.พี.เอส.พีเปิล ซึ่งเป็นศาสนาจารย์และมิชชั่นนารีประจำที่จังหวัดลำปาง จึงได้นำข้าวสารบรรทุกหลังม้าต่างยกเป็นขบวนนำมาแจกแก่ชาวบ้านที่อดยากหิวโหย โดยมีคริสเตียน 2คน ได้แก่ นายน้อยและนายธรรมชัย จากลำปาง นำสิ่งของมาแจกที่หมู่บ้านเวียงทอง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ พร้อมได้เล่าการแจกข้าวสารของ ดร.พีเปิล ให้ชาวบ้านฟัง

  หลังจากแจกข้าวสารเสร็จแล้ว คณะมิชชั่นนารีก็กลับลำปาง มีชาวบ้านจากแพร่ติดตามไปด้วยจำนวนหนึ่ง และได้พักที่ลำปาง1เดือน ระหว่างนั้นก็มีโอกาสได้ฟังคำสอนเกี่ยวกับศาสนา ได้เห็นการประพฤติปฎิบัติที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักเมตตาของมิชชั่นนารีจึงเกิดความศรัทธาเลื่อมใสในคริสต์ศาสนาในที่สุดก็ตัดสินใจรับเชื่อในพระเยซูคริสต์ 10 คน ครั้นคริสเตียนทั้ง10คน กลับสู่จังหวัดแพร่ จึงนำข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ไปบอกเล่าให้เพื่อนฝูงและญาติพี่น้องฟัง ทำให้อีกหลายครอบครัว ตัดสินใจเชื่อรับบัพติศามาประกาศตัวเป็นคริสเตียน จนสามารถรวมตัวกันตั้งเป็นคริสตจักร “แห่งแรก” ของจังหวัดซึ่งได้แก่คริสตจักรที่1แพร่กิตติคุณ

ในปี ค.ศ.1894(พ.ศ.2437) ศาสนาจารย์ ดร.ฟิเอสพเปิ้ล ได้จัดการซื้อที่ดินแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเชตะวันอันมีเนื้อที่ประมาณ 3ไร่ เศษ ที่ดินดังกล่าวนี้อยู่ใกล้ๆ ฝั่งแม่น้ำยมฟากด้านตะวันตกใกล้ๆ บริเวณห้างบอมเบย์เบอร์ม่า บริษัทที่ได้รับสัมปทานป่าไม้เขตภาคเหนือ เวลานั้นที่ดินอาณาเขตที่มิชชั่นซื้อครั้งนั้นติดอยู่ให้บริษัทำการป่าไม้บอมเบย์เบอร์ม่ามิชชั่นใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลขนาดเล็ก(คลินิก)และสร้างอาคารเรียนตั้งเป็นสถานที่สอนหนังสือ สร้างบ้านพักมิชชั่นนารี บ้านพักคนงาน เรือนพักคนงาน และโรงสวดเป็นสถานที่สวดนมัสการพระเจ้า ในปี ค.ศ.1894 ดร.วิลเลียมบริ๊กส์เอ็มดี (Dr.Rilliam Briggs M.D.) ได้ย้ายมาเป็นมิชชั่นนารีประจำเมืองแพร่เป็นครอบครัวแรก

ผู้ปกครอง2คนแรก ในคริสตจักรเมืองแพร่ คือ นายมา ชาติเงี้ยว กับ นายน้อยปัญญา มณีวงศ์ และยังอีกผู้หนึ่งซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของในการเผยแพร่ศาสนาคริสต  คือนายหนานชัย นุภาพ ที่ย้ายมาจากเชียงใหม่ เพื่อมาทำงานกับบริษัท ป่าไม้บอมเบย์เบอร์ม่าก่อนที่คณะมิชชั่นนารีจะเปิดสำนักงานมิชชั่นนารี  

ในปี ค.ศ.1913(พ.ศ.2456) สมัยที่ท่านอาจารย์ ซี อาร์ คารเลนเดอร์พร้อมทั้งครอบครัวไปอยู่ประจำที่เมืองแพร่ในปีนี้เองคณะมิชชั่นนารีได้มีมติให้ย้ายสำนักงานมิชชั่นนารีจากบ้านเชตะวันไปอยู่ที่ดินแปลงใหม่คือ บ้านทุ่ง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ อันเป็นที่ดินที่โรงเรียนและโรงพยาบาลตั้งอยู่ในปัจจุบัน เหตุที่มิชชั่นนารีต้องย้ายไปตั้งอยู่ที่ใหม่นี้เนื่องจากบริเวณเขตเก่าของมิชชั่นนารีที่บ้านเชตะวันถูกน้ำยมเซาะตลิ่งพังกินเนื้อที่ของมิชชั่นนารีไปทุกที ในไม่ช้าก็ถูกแม่น้ำยมกลืนหมด จนปัจจุบันนี้บริเวณที่ดินดังกล่าวตกอยู่กลางแม่น้ำทีเดียว ผืนแผ่นดินบริเวณของเขต  มิชชั่นนารีที่หมู่บ้านเชตะวันไม่เหลือแม้แต่น้อย

หลังจากย้ายมาตั้งโบสถ์มาที่บ้านทุ่ง นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1929(พ.ศ.2472) ดำเนินกิจกรรมเรื่อยมาอย่างไม่มีปัญหา ทางคริสตจักรที่ 1 ในเมืองแพร่ไม่มีชื่อเฉพาะ จึงมาเปลี่ยนชื่อเป็น “คริสตจักรแพร่กิตติคุณ”ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองนี้เอง ต่อมาทางคริสตจักรเห็นว่าคริสต์สมาชิกเจริญก้าวหน้ามามากแล้ว เห็นสมควรที่จะต้องสร้างโบสถ์ขึ้นใหม่ ให้เป็นตึกอาคารถาวร ตึกคอนกรีตเสริมเหล็กให้ทันสมัย สมาชิกรวมทั้งคณะธรรมกิจจึงได้ตกลงให้สร้างขึ้นใหม่ในสถานที่ดินแห่งใหม่อันเป็นที่ดินของมิชชั่นนารีที่ซื้อไว้แต่เดิม ในนามของบอร์ดออฟฟอเรนส์ มิชชั่นนารี

เมื่อเวลาผ่านไปทางบอร์ดได้สลายตัวและมอบให้เป็นของมูลนิธิสภาคริสตจักรในประเทศไทยเป็นเจ้าของ มีเนื้อที่ประมาณ13ไร่1งาน18ตารางวา ตั้งอยู่ที่ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ อันเป็นที่ตั้งโบสถ์คริสตจักรที่1แพร่กิตติคุณ ในปัจจุบัน หลังจากคริสตจักรได้ย้ายมาสร้างที่นมัสการพระเจ้า (โบสถ์ ใหม่) ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียนเจริญราษฎร์ ทางทิศใต้ ซึ่งเป็นสถานที่ปัจจุบันนี้ ในปี ค.ศ.1952 คริสตจักร ได้ดำเนินงานตามปกติ โดยการดำเนินงานของคณะธรรมกิจเพราะช่วงนี้คริสตจักรยังไม่มีศิษยาภิบาล จวบจนราวปี ค.ศ.1957 คริสตจักรจึงได้มีศิษยาภิบาลประจำการจนถึงปัจจุบัน 


ที่มา http://www.crschool.ac.th,โบสถ์,คริสตจักรที่ 1 แพร่กิตติคุณ,โรงพยาบาลแพร่คริสเตียน
อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/521623